ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรากำลังทำอะไรกันอยู่

มีเรื่องเล่าว่า... มีพระองค์หนึ่ง...ชอบทำอะไรแปลกๆ...
วันหนึ่ง...พวกกรุงเทพฯ...เอากฐินไปทอดที่วัด...
จัดงานกันใหญ่โต...มีหนัง...มีลิเก...มีดนตรี...ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน...
ก่อนทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา...
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา...
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง...แล้วเอาเชือกมาด้วย...
หลวงพ่อจัดการ...เอาเนื้อ...ผูกติดกับหลังหมา...
ผูกเสร็จ...ก็ปล่อยหมา ...
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง...ก็ไล่งับ...
พอหัวโดดงับ...ตัวก็ขยับหนี...
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง...
ยิ่งโดดงับเร็ว...ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว...
โดดไม่หยุด...เนื้อก็หนีไม่หยุด...น่าสงสารหมามาก...
หมาโดดอยู่นาน...งับเท่าไหร่...เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที...
ผู้คนบนศาลา...พากันหัวเราะชอบใจ...
หัวเราะเยาะหมา...ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้...
ไล่งับ...จะกินเนื้อ...ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต...
หลวงพ่อ...มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว...
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา...
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า...

มนุษย์เรา...มีความรู้สึกว่า...ตัวเองพร่อง...ตัวเองยังไม่เต็ม...
ต้องเติมตลอดเวลา...เติมไม่หยุด...เพื่อให้ตัวเองเต็ม...
เราอยากสวย...อยากทันสมัย...
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด...ทันสมัยที่สุดใส่...
ดีใจได้เดือนเดียว...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...สวยกว่า...ทันสมัยกว่า...
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่...
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน...รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว...
ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด...
๒ เดือนต่อมา...มีรุ่นใหม่กว่าออกมา...ของเราตกรุ่น...
ซื้อรถเบนซ์...ทันสมัยที่สุด...แพงมาก...
ขับได้ ๖ เดือน...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...
ทันสมัยกว่า...แพงกว่า...ของเรากลายเป็นเชย...
เราต้องก้มหน้าก้มตา...ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน...หาเงินมา...
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย...
ซื้อเสื้อผ้าใหม่...มือถือใหม่...คอมพิวเตอร์ใหม่...รถยนต์คันใหม่...
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส...
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น...
ปัจจุบัน... เรากำลังไล่งับความทันสมัย...เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน...
ทั้งที่รู้ว่า...ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต...ก็ไม่มีทางตามทัน...
น่าสงสารไหมโยม...
คนเต็มศาลา...เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น...
ด่าว่า...หมามันโง่...
ตอนนี้เงียบสนิท...เหมือนไม่มีคนอยู่...
ไม่รู้ว่า...กำลังสงสารหมา...
หรือ...กำลังทบทวนความโง่...ตัวเอง

คุณ "กำ" อะไรอยู่ ?

ครอบ ครัวที่น่ารักอยู่ครอบครัวหนึ่ง ในครอบครัวนี้มี พ่อ แม่ และบุตรชายวัย 5 ขวบ กำลังน่ารักเลยทีเดียว เจ้าหนูเป็นเด็กที่ซนอย่างร้ายกาจและขี้สงสัยอย่างมาก
อยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูก้อนึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างไรบอกไม่ถูก
ไปคว้าเอาแจกันหยกแกะสลักต้นราชวงศ์หมิง
ซึ่งนั่นก้อหมายความว่ามันราคาแพงมาก นำมาเล่นพลิกคว่ำพลิกหงาย
สักพักก้อล้วงมือเข้าไปในแจกัน
ทันใดนั้นเจ้าหนูก้อทำตาโตเท่าไข่ห่านดูเหมือนจะดีใจที่ล้วงเข้าไปเจอ อะไรสักอย่าง
แต่ปัญหาหาอยู่ที่ว่า เจ้าหนูจะดึงมือออกมาได้อย่างไร
เจ้าหนูเริ่มกระสับกระส่ายพยายามดึงมือออกมาแต่ ก้อไม่สำมะเร็จ จนต้องใช้ไม้ตายคือ "ทำไม่ได้ร้องไห้ไว้ก่อน" เสียงเอ็ดอึงเป็นผลให้พ่อและแม่ต้องวิ่งมาดู
เมื่อมาพบเข้าต่างก้อพยายามช่วยกันดึงมือของเจ้าหนูออกจากแจกันด้วยวิธีต่างๆ
น้ำมันก้อแล้ว น้ำสบู่ก้อแล้วทำอีท่าไหนก้อไม่ออก
จนสุดท้ายผู้เป็นพ่อต้องตัดใจทุบแจกันหยกราชวงศ์หมิงทิ้ง
เพื่อรักษามือของลูกชายเอาไว้ เมื่อมือของเจ้าหนูหลุดจากแจกันแล้วพ่อและแม่
ก้อพบว่ามือเจ้าหนูกำอะไรบางอย่างจนแน่น
ผู้เป็นแม่จึงถามลูกชายว่า "หนูกำอะไรอยู่จ้ะลูก ?"
เจ้าหนูตอบพร้อมทำสีหน้าขึงขัง "ผมปล่อยมันไม่ได้หรอกครับ"
"แล้วมันคืออะไรจ้ะลูก?" ผู้เป็นพ่อเริ่มสงสัย
"มันเป็นสตางค์ครับ" เจ้าหนูตอบพร้อมกับค่อยๆ แบมือออกอย่างทนุถนอม
จึงปรากฏว่า ในมือของเจ้าหนูมีเพียงเหรียญสลึงอยู่สองเหรียญ
เจ้าหนูหารู้ไม่ว่าการที่เขาพยายามกำเหรียญเอาไว้
ทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียของมีค่ากว่าเป็นพันๆ เท่า

แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ขณะที่คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่นี้
คุณกำลัง "กำ"อะไรไว้ในชีวิตบ้าง
เงิน? บ้าน? งาน? รถ? ทิฐิ? ...
แล้วสิ่งที่คุณกำอยู่ทำให้คุณสูญเสียอะไรที่มีค่ามหาศาลไปบ้าง
เวลา.... ครอบครัว.... พ่อแม่..... คนที่รักเรา..... สวรรค์
คุณ "กำ" อะไรอยู่ ?

พานพบและพลัดพราก

เวลานี้ - ที่นั่นเป็นอย่างไร
นึกเมื่อนิ่งพักใจเมื่อไกลห่าง
เราพานพบเราผูกพันเพื่อปล่อยวาง
เราร่วมทางแล้วแยกทางเพื่อต่างเดิน
เพียงส่วนเสี้ยวแห่งพานพบและพลัดพราก
ล้วนทำใจได้ยากแม้นานเนิ่น
บางความหลังยังรู้สึก ( ลึกเหลือเกิน )
หากยังยิ้มและดุ่มเดิน แม้เดียวดาย
เชื่อว่าพ้นราตรี มีทิวา
และเชื่อว่าทางความฝันนั้นหลากหลาย
ที่เคยรักเคยเคียงเป็นเพียงคล้าย
ถึงจุดตัดก็แยกย้ายไปตามทาง
เคยท้อแท้ร้างไร้เรี่ยวแรงฝัน
ไม่เชื่อแม้มีตะวันในรุ่งสาง
ไขว่คว้ายื่นมือไปในเลือนลาง
ก็พบเพียงความเวิ้งว้าง.......และเดียวดาย

คาถาเรียนเก่ง........จิงๆนะคะ

คาถาเรียนเก่ง(อิอิ)




ปาเจรา วีดีโอ โหตุ
โทรทัศน์ สุรา
ตำราบ่สน
ข้าฯ ขอ เคารพ น้อม สักการ
แต่โทรทัศน์ นาจารย์
และวีดีโอ X.. นักศึกษา
ทั้งวิทยุ ผู้ประกาศวิชา
อบรม จริยา
แก่ข้าในการปัจจุบัน
ข้าฯ ขอ เคารพ เทปทุกๆอัน
สามม้วน 1 วัน
1 วันเรียน3 วิชา
ขอเดช เครื่องถ่ายเอกสารมา..
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
อุตสาห์มา นั่งเรียนทุกๆวัน
เรียนไปก็ ปวดกบาล
ฉะนั้นอย่าได้ เรียนมันเลย(กราบ)
ปัญญาต๊อกแต๊ก
อิโหล โต๋ เต๋
สอบไม่ O.K.
เลยเรียน8ปี(กราบ)

.....*****......

สาธุ**ใครอ่านจบแล้วไม่สาธุขอให้เรียนไม่จบ คบคนไม่ดี มีผีเป็นเพื่อน มีเกลื้อนที่หลัง ก้นเท่ากะละมัง

บ้านรกรุงรัง เป็นรังหนู (ขอให้เป็นจริงสาธุ)

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553